ฝ้า

ไม่มีใครชอบสภาพผิวที่ไม่ใส ไม่เรียบเนียน “ฝ้า” ปัญหาใหญ่ที่ทำให้หน้าพังมาเป็นแรมปี ปัญหาผิวพรรณโดยเฉพาะสาวๆ ซึ่งจะเกิดกับผู้หญิงในช่วงวัยกลางคนอายุ 20-50 ปี ฝ้าเป็นหนึ่งในสภาพผิวที่ไม่พึงประสงค์ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? เนื่องจากฝ้า เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่รักษาค่อนข้างยาก และผลข้างเคียงจากการรักษาฝ้าแบบผิดวิธีก็มีมากเช่นกัน

ฝ้าเกิดขึ้นได้กับใครบ้าง

ทั้งผู้ชายและผู้หญิงสามารถเป็นฝ้า อย่างไรก็ตามประมาณ 90% ของกรณีฝ้าทั้งหมดเกิดขึ้นในสตรี หญิงตั้งครรภ์มีโอกาสเกิดฝ้าได้ง่าย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เกิดจากระดับฮอร์โมนที่มีปริมาณมากขึ้นในช่วงตั้งครรภ์  ฝ้าชนิดนี้ก็ไม่ได้มีอันตรายร้ายแรง อาจจะดีขึ้นและไม่ดีขึ้นหลังคลอด

สาเหตุการเกิดฝ้า

ฝ้าเกิดจากการผลิตเม็ดสีเมลานินที่มากเกินไป ในบริเวณผิวหนัง ทำให้รอยบริเวณผิวหนังนั้นเป็นรอยสีน้ำตาลเข้มจนถึงสีเทา ซึ่งพบได้ บริเวณ โหนกแก้ม คาง สันจมูก และอาจเกิดที่หน้าฝาก

แม้สาเหตุของการเกิดฝ้าไม่สามารถระบุได้แน่ชัด แต่ก็สามารถทราบว่าเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น แสงแดดซึ่งรังสี UV นี่เองที่เป็นสาเหตุกระตุ้นให้เมลานินผลิตเม็ดสีผิวออกมาเพิ่มมากขึ้น สีผิว ภาวะผิดปกติของฮอร์โมนในร่างกาย การรับประทานฮอร์โมนในรูปแบบต่างๆ อย่างยาคุมกำเนิด เป็นต้น

 ชนิดของฝ้า

ฝ้าจะมีลักษณะที่เป็นรอยปื้นๆ ใหญ่ๆ มีสีน้ำตาลเข้มกว่าสีผิวปกติของเรา โดยทั่วไปแล้วสามารถแบ่งฝ้าออกได้เป็น 2 ชนิดคือ ชนิดตื้นและชนิดลึก

  • ฝ้าแบบตื้น จะอยู่ในระดับผิวหนังกำพร้า หรือผิวหนังชั้นอก ฝ้าชนิดนี้เกิดได้ง่าย มีลักษณะเป็นสีน้ำตาล ขอบชัดสามารถรักษาได้ไม่ยาก และป้องกันได้ด้วยการใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
  • ฝ้าแบบลึก จะเกิดขึ้นในระดับที่ลึกกว่าผิวหนังกำพร้า เป็นระดับชั้นผิวหนังแท้ มีลักษณะเป็นสีม่วง อมน้ำเงิน ขอบเขตไม่ชัดเจน รักษาค่อนข้างยาก แต่สามารถดูแลได้ด้วยการใช้ครีมกันแดด และยาทาฝ้า เพื่อป้องกันไม่ให้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม

การรักษาฝ้า

1.ฝ้าที่เกิดจากการรับประทานยาคุมกำเนิด หรือเกิดในช่วงตั้งครรภ์ สามารถหายเองได้ การรักษาด้วยยา เป็นวิธีการรักษาด้วยการใช้ยาในรูปแบบครีม ที่มีตัวยา สำหรับยับยั้งการสร้างเม็ดสีเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ ยาทากลุ่มกรดอะซีลาอิก (Azelaic Acid) กรดโคจิก (Kojic Acid) กรดวิตามินเอหรือเรตินอยด์ (Topical Retinoids/Retinoic Acid) กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) ไฮโดรควิโนน (Hydroxyquinone)  คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids)

2. รักษาฝ้าด้วย IPL (Intense Pulsed Light) คือเป็นการใช้แสงยิงลงไปที่ผิวให้เกิดความร้อน เป็นการปล่อยพลังงานแสง ที่มีความเข้มข้นสูง และความร้อนนั้นจะไปทำลายโปรตีนของเม็ดสีผิวหรือเมลานิน สามารถเข้าทำลายเม็ดสีผิวที่เข้มให้หลุดออก ช่วยเร่งการผลิตเซลล์ผิวใหม่มาทดแทน ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น เป็นวิธีที่สามารถรักษาฝ้าและกระได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 3. โดยใช้ Q Switched Nd YAG1064 การรักษาแบบ Laser Toning คือการใช้เลเซอร์ เพื่อการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยเทคโนโลยี เลเซอร์ Q Switched Nd: YAG โดยแสงเลเซอร์จะมุ่งเน้นไปที่ตำแหน่งของเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติอย่างจำเพาะเจาะจง ทำให้เม็ดสีเเมลานินเหล่านั้นแตกกระจายออก ทำให้รอยฝ้า รอบดำต่างๆ จางลง เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 1,064 nm.สำหรับปัญหา ฝ้าลึก กระลึก แผลเป็น รวมถึงรอยสัก  ข้อดีของ Laser Tonight ไม่มี Downtime หลังทำสามารถแต่งหน้าและไปทำงานได้ตามปกติ

4. เลเซอร์ดูโอ เยลโล่ว (DUAL YELLOW)

Dual Yellow คืออะไร? เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ใช้ Copper-Bromide เป็นแหล่งกำเนิดเลเซอร์ทำให้ได้เลเซอร์ออกมา 2 ชนิด คือ เลเซอร์สีเหลืองและเลเซอร์สีเขียว เป็นการผสมผสานเลเซอร์ 2 ชนิด ที่มีความจำเพาะเจาะจงสูง แสงเลเซอร์จะทำลายเฉพาะเป้าหมายที่เจาะจง สำหรับดูแลผิวหน้า ทำให้ได้ผลการรักษาที่กว้างขึ้น ไม่ส่งผลต่อผิวหนังปกติ ด้านข้างจึงไม่ค่อยพบผลข้างเคียง สามารถแต่งหน้า และทำกิจกรรมได้ตามปกติ โดยแสงเลเซอร์มีความยาวคลื่นดังนี้    

  • โดยเลเซอร์สีเหลือง มีความยาวคลื่น 578 nm. เหมาะสำหรับรักษาเส้นเลือด รอยดำ รอยแดงต่างๆ
  • เลเซอร์สีเขียวมีความยาวคลื่น 511 nm. เหมาะสำหรับรักษาเม็ดสีของผิวที่ไม่สม่ำเสมอ โดยผสมผสานการใช้ Fast Edge MicroPulse Technology ซึ่งให้ผลในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นใต้ผิว แต่ไม่ทำให้ผิวชั้นล่างเสียหาย

5. Ruby Laser ความยาวคลื่น 694 nm. หรือ Q Switch ND  yag 532 สามารถนำมารักษาฝ้าได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์

6. การลอกหน้าด้วย AHA,  Miami Peel, Biopeel

  •  AHA (เอเอชเอ) ย่อมาจากคำว่า alpha hydroxy acid คือ สารประกอบที่มีฤทธิ์เป็น กรด AHA หรือเรียกอีกอย่างว่า “กรดผลไม้”  ซึ่งสภาวะความเป็นกรด (pH < 7) และต้องมีความเข้มข้นมากกว่า 10% ขึ้นไป มีบทบาทในการ ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอกออกไป ช่วยฝ้าชนิดตื้น ร่วมกับการทายา จะได้ผลดีมาก
  • การผลัดเซลล์ Miami Peel สูตรที่มีประสิทธิภาพสำหรับปัญหาสุขภาพผิวต่างๆ การผลัดเซลล์ผิว เป็นเทคนิคการรักษาผิวให้มีความเรียบเนียน และมีความแข็งแรงมากขึ้น โดยใช้สารผลัดเซลล์ผิวที่ช่วยปรับสภาพผิว กระตุ้นการสร้างชั้นผิวใหม่ให้แข็งแรงขึ้นกว่าเดิม ด้วยส่วนผสมพิเศษของสารผลัดเซลล์ผิวที่สามารถละลายไขมัน มีองค์ประกอบของวิตามินซี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและลดรอยแดง รอยดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเลือกชนิดของ  peeling คุณหมอจะเลือกให้เหมาะสมกับคนไข้เป็นรายๆไป

วิธีทั้งหมดที่กล่าวมาแนะนำทำร่วมกับ

  • การทายาฝ้า
  • ทาครีมบำรุงผิว
  • หลีกเลี่ยงแสงแดด
  • หลีกเลี่ยงความร้อน
  • ทาครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไปและทาซ้ำทุก2 ชม.หากแดดจัด

หากทำทุกวิธีข้างต้นแล้วไม่ได้ผล เรามีบริการศัลยกรรมลบฝ้า (Dermabrasion) คือ เทคโนโลยีเฉพาะของยศการคลินิก ศัลยกรรมลบฝ้า ช่วยลบฝ้าทั้งลึกและตื้น ทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของยศการคลินิก กระตุ้นให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ และยังกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนใต้ผิวให้มีประสิทธิภาพ  เสริมสร้างให้ผิวใหม่ให้เรียบเนียน ขาว กระจ่างใส แข็งแรงและดูอ่อนวัยยิ่งขึ้น

ภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังรักษาฝ้า