เคยหรือไม่ที่หลังตื่นนอนขึ้นมาแล้วรู้สึกว่านอนหลับไม่เต็มอิ่ม อยากนอนต่อ หลายต่อหลายครั้งคิดว่าตัวเองมีอาการขี้เกียจ ขี้เซา ไม่ยอมลุกจากที่นอนง่ายๆ ถ้าหากมีอาการดังกล่าวจงพึงระวังว่าคุณอาจจะมีอาการนอนกรนและมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับร่วมด้วย โดยปกติผู้ชายจะนอนกรนมากกว่าผู้หญิง คนอ้วนทุกคนนอนกรนและในคนที่ผอมก็นอนกรนได้เช่นกัน เราลองมาดูกันว่าอาการนอนกรนนั้นส่งผลอย่างไรและสำหรับผู้ที่นอนกรนควรปฏิบัติตัวอย่างไรกันบ้าง
อาการนอนกรนเกิดจากอะไร
ขณะนอนหลับ ทางเดินหายใจส่วนบนจะแคบลงเนื่องจากกล้ามเนื้อคอมีการคลายตัวและหย่อนตัว ทำให้ทางเดินหายใจแคบลง เมื่อมีอากาศไหลผ่านทางเดินหายใจที่แคบนั้น ทำให้เนื้อเยื่อคอต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เพดานอ่อน ทอนซิล ลิ้นไก่ เกิดการสั่นจนกลายเป็นเสียงกรน นอกจากนี้แล้ว ในผู้ที่มีอาการต่อมทอนซิลโต ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากที่มีเนื้อเยื่อผนังคอหนากว่าปกติก็มีโอกาสนอนกรนมากขึ้นด้วย
ประเภทของการนอนกรน
- กรนธรรมดา คนกลุ่มนี้ไม่มีภาวะหยุดหายใจ เพียงแค่นอนกรนเท่านั้น ซึ่งทำให้ผู้ที่อยู่รอบข้างเกิดความรำคาญ นอนหลับได้ยาก
- กรนอันตราย คือผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจร่วมด้วย มักมีอาการง่วงผิดปกติในเวลากลางวัน กระทบกับสภาพชีวิตในเวลากลางวัน มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดในสมอง ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นต้น ซึ่งพบว่าผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจและหายใจแผ่วเบามากกว่า 30 ครั้งต่อชั่วโมง ถือว่าอยู่ในระดับอันตรายขึ้นรุนแรง
สัญญาณบ่งบอกว่าคุณมีอาการกรนประเภทอันตรายแล้วล่ะ
- อ่อนเพลีย ไม่สดชื่นหลังตื่นนอนรู้สึกนอนไม่เต็มอิ่ม
- มึนศีรษะอยากนอนต่อ ตื่นยากลุกยาก
- ง่วงในเวลากลางวัน มีอาการเบลอเผลอหลับ
- หายใจติดขัด สะดุ้งผวา สำลักน้ำลาย
- ตื่นนอนกลางดึก หรือปัสสาวะกลางดึก
- การคิดอ่านช้าลง สมองตื้อ ขาดสมาธิหลงลืมง่าย
- เคยมีประวัติเส้นเลือดหัวใจตีบเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต
- มีโรคเบาหวานความดันสูงไขมันในลิ่มเลือดสูงร่วมด้วย
- ขับรถเผลอหลับในบ่อยครั้ง
- ความรู้สึกทางเพศลดลง
วิธีกาตรวจสอบประเภทการกรน
- ตรวจสอบด้วยการตรวจนอนหลับหลายมิติ(Polysomnogramหรือ Sleep test) โดยใช้ดัชนีหยุดหายใจและหายใจแผ่วเบา ประกอบกับการวัดระดับออกซิเจนในเลือดที่ต่ำที่สุดขณะนอนหลับ
- การส่องกล้องตรวจระบบทางเดินหายใจส่วนบน ใช้ตรวจสอบตำแหน่งของทางเดินหายใจส่วนบนและหาสาเหตุของการอุดกั้นทางเดินหายใจ
- การเอ็กซเรย์ หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เมื่อตรวจสอบโครงสร้างทางเดินหายใจ
สาเหตุของการนอนกรน
- ทางเดินหายใจส่วนบนอุดกั้น ทำให้หายใจไม่สะดวก
- กล้ามเนื้อที่ลำคอและลิ้นหย่อนคลายตัว เกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ
- เนื้อเยื่อลำคอหนาและมีขนาดใหญ่ ทำให้ทางเดินหายใจแคบลง
- ลิ้นไก่ยาวหรือเพดานอ่อนยาว ทำให้อุดกั้นทางเดินหายใจ
- การมีน้ำหนักตัวมากเกินไป รวมถึงการเป็นโรคทางเดินหายใจต่างๆ ก็เป็นสาเหตุสำคัญของอาการนอนกรน
- การดื่มแอลกอฮอล์
- โพรงจมูกอุดกั้นเนื่องจากเยื่อจมูกบวมหรือแกนกลางเบี้ยว
- กระดูกกรามล่างและคางหด
- กระดูกกรามบนหด
การรักษาอาการนอนกรน
แนวทางรักษาอาการนอนกรนมีได้หลายวิธีโดยปกติแล้วแพทย์มักจะแนะนำให้ใช้วิธีไม่ผ่าตัดก่อน
วิธีไม่ผ่าตัด
- ปรับท่าทางการนอน โดยปกติมักจะกรนขณะนอนหงาย ก็เปลี่ยนเป็นทางนอนตะแคง หรือบางคนอาจจะนอนคว่ำแล้วไม่กรน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสรีระของแต่ละบุคคล
- ลดน้ำหนัก ผู้ที่มีน้ำหนักเกินส่วนใหญ่มักนอนกรน ดังนั้นการลดน้ำหนักจึงเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาได้
- ออกกำลังกาย เพื่อฝึกให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ต่อเนื่องขึ้น เช่น การออกกำลังกายแบบแอโรบิก เล่นเทนนิส เตะฟุตบอล เพื่อเพิ่มความตึงตัวให้กับกล้ามเนื้อคอ ลดการหย่อนและอุดกั้นทางเดินหายใจ
- หลีกเลี่ยงยาที่ทำให้ง่วง จำพวกยากล่อมประสาท ยาแก้แพ้ ยานอนหลับ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ หรือเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่ทำให้เนื้อเยื่อระบบทางเดินหายใจส่วนบนบวม สารนิโคตินกระตุ้นให้สมองตื่นตัว นอนหลับไม่สนิท
- ใช้อุปกรณ์ช่วยลดกรนเช่น เครื่องอัดอากาศแรงดันบวกในการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับหรือ เครื่องมือในช่องปาก ใช้เพื่อจัดตำแหน่งดันลิ้นมาด้านหน้า ปรับขากรรไกรล่างให้ยื่นมาด้านหน้า รวมทั้งยกเพดานอ่อนและลิ้นไก่ให้สูงขึ้น
วิธีผ่าตัด
ในรายที่ทดลองใช้วิธีไม่ผ่าตัดแล้วไม่ได้ผล หรือไม่สะดวกใช้วิธีดังกล่าว ก็สามารถตัดสินใจเลือกใช้วิธีผ่าตัดได้ วิธีการผ่าตัดมีจุดประสงค์เพื่อขยายขนาดทางเดินหายใจส่วนบนให้กว้างขึ้น ซึ่งหลายคนเข้าใจว่าเป็นการผ่าตัดกล่องเสียงแต่แท้ที่จริงแล้วเป็นการผ่าตัดบริเวณเพดานอ่อน ลิ้นไก่ และผนังคอหอย โดยแบ่งออกเป็น
- การจี้ด้วยคลื่นวิทยุให้เนื้อเยื่อเพดานอ่อนและโคนลิ้นหดกระชับ เพื่อเปิดช่องให้ทางเดินหายใจกว้างขึ้น
- ผ่าตัดต่อมทอลซิลในผู้ใหญ่ หรือทั้งต่อมทอลซิลและอดีนอยด์ในเด็ก
- ผ่าตัดตกแต่งเพดานอ่อน ลิ้นไก่ และโคนลิ้นเพื่อเปิดช่องทางเดินหายใจให้กว้างขึ้น
- ผ่าตัดเลื่อนกระดูกกรามบนและกรามล่าง
- ผ่าตัดตกแต่งเนื้อเยื่อเพดานอ่อนด้วยเลเซอร์ เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยขยายขนาดทางเดินหายใจ
- เพิ่มความแข็งแรงให้เนื้อเยื่อและลดการสั่นของเพดานอ่อน เช่น การฝังพิลลาร์
การป้องกัน
- หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อให้กล้ามเนื้อทางเดินหายใจส่วนบนกระชับตึงตัวขึ้นโดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุมากขึ้น มีโอกาสที่เนื้อเยื่อทางเดินหายใจส่วนบนจะหย่อนยานทำให้ทางเดินหายใจแคบลง
- ควบคุมน้ำหนักตัวเพราะน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นสัมพันธ์กับไขมันสะสมรอบผนังช่องคอยิ่งผนังช่องคอแคบหนาเท่าไหร่ยิ่งทำให้เกิดอาการกรนและมีภาวะหยุดหายใจมากขึ้นเท่านั้น
- สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจต้องขอรับคำแนะนำจากแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
- งดดื่มเหล้า งดสูบบุหรี่ อย่างที่ทราบดีว่าแอลกอฮอล์และสารนิโคตินมีผลโดยตรงต่อกล้ามเนื้อทางเดินหายใจส่วนทำให้เกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ ดังนั้นวิธีการป้องกันและแก้ปัญหาได้ตรงจุดที่สุดคือหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และเลิกสูบบุหรี่อย่างถาวรไปเลย
การนอนกรนเป็นอันตรายกว่าที่คิด ถ้าหากคุณมีอาการดังที่กล่าวมา อย่านิ่งนอนใจหรือปล่อยทิ้งไว้เพราะคิดว่าไม่เป็นเรื่องสำคัญ ในคนที่มีภาวะหยุดหายใจร่วมด้วยถือว่าเป็นอันตรายมาก เพราะส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ก่อให้เกิดโรคร้ายแรงมากมาย และทำให้อายุสั้นลงด้วย ปัจจุบันเทคโนโลยีการแพทย์ก้าวล้ำไปไกล วิธีการรักษาอาการนอนกรนนั้นทำได้ง่ายขึ้นมาก เพียงแค่ยินดีรับคำปรึกษาจากแพทย์และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำเพียงเท่านี้ก็ช่วยให้การนอนของคุณเป็นการนอนหลับที่มีคุณภาพ ส่งเสริมให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง